Thursday, November 12, 2015

เรื่องเนื้อคู่ฯ ไม่ง่ายอย่างที่คิด


อีกหนึ่งในหกหญิงที่สุดแสนประทับใจ เรื่องราวระหว่างเรากับเธอนั้นไม่ธรรมดา

ถ้าจะเอ่ยชื่อเธอก็ไม่น่าเกลียดเพราะไม่รู้ปุ๊กไหน?

ภาพปุ๊กที่ยกมือชูขึ้นขณะที่เราประกาศชื่อผู้เข้าร่วมกลุ่มฯ ทำให้เราประหลาดใจไม่น้อย ทำไมครึ่งวันเช้าเราถึงไม่เห็นเธอ มันไม่มีความทรงจำใด ๆ เลย ทำให้ภาพนั้นประทับในใจเรามาจนทุกวันนี้

ขณะที่ออกไปฝึกความกล้าด้วยกันในช่วงบ่าย เราก็ต้องรู้สึกทึ่งในตัวปุ๊กอีกครั้ง และเราก็รู้สึกชอบเธอตั้งแต่วันแรก แต่แค่นี้ไม่ได้ทำให้เราปักใจเชื่อว่า นี่คือเนื้อคู่หรอกนะ

หลังจากนั้นเรากับปุ๊กก็ได้ไปกินข้าวด้วยกันบ่อยครั้ง แม้จะไปกันเป็นกลุ่ม ดูท่าทางก็เหมือนว่าเธอก็ชอบเรา วันหนึ่งมีโอกาส เราก็นำรูปถ่ายของผู้หญิงที่เราเก็บได้ ซึ่งตอนที่เก็บเราก็กะว่าเอาไว้อำเพื่อนเล่น ให้ปุ๊กดูพร้อมกับพูดว่า นี่ไงรูปแฟนสวยไหม?

ปุ๊กเอารูปภาพไปดู เราเห็นเธอหน้าเสียนิดหนึ่งก่อนตอบว่า ก็สวยดีนี่ เราเห็นอาการของปุ๊ก เราจึงพูดว่า ไม่ใช่แฟนหรอกรูปใครก็ไม่รู้เก็บได้เห็นสวยดีเลยเก็บไว้อำเพื่อนเล่น

เห็นได้ชัดเลยว่าปุ๊กดูดีใจขึ้นมา เธอยิ้มแล้วพูด "ไม่ใช่รูปแฟนใช่มั๊ย งั้นทำลายเลย" ว่าแล้วเธอก็รูปใส่ลงไปในถ้วยขนมหวานที่เลิกทานแล้วใช้ช้อนกดให้จมน้ำกะทิ เธอทำแบบนี้ทำไม?

....

วันหนึ่งเรานั่งทำงานเช็คงานลูกค้าที่หน้าคอมฯ ปุ๊กมารับโทรศัพท์และยืนคุยที่โต๊ะข้างหลังเราเยื้องไปทางด้านขวาห่างประมาณเมตรกว่า ๆ เกือบครึ่ง เธอคุยโทรศัพท์ได้สักครู่

ฉับพลัน เราเห็นรังสีแผ่ออกมาจากท้องน้อยของปุ๊ก ตรงจักรเพศ หรือที่จีนเรียกว่า ตันเถียน แต่เราไม่ได้เห็นด้วยตา เพราะเราไม่ได้หันไปมอง เมื่อรังสีนั้นมาถึงเรา บริเวณท้องน้อยของเราตรงจักรเพศก็ร้อนระอุขึ้น องคชาตของเราแข็งขืนขึ้นมาทันที เราอยากสอดใส่เข้าไปใน...ของปุ๊กมาก สักพักเราก็เข้าห้องน้ำเพื่อสำรวจความผิดปกติ...

เหตุการณ์นี้ทำให้เราปักใจในตัวปุ๊กมากว่า นี่แหล่ะเนื้อคู่ และปักใจนานตั้ง 4 ปีกว่า จนกระทั่ง...

วันหนึ่งเรานั่งรถร่วมขสมก. พอรถจอดป้ายมีหญิงวัยรุ่น 3-4 คนขึ้นรถมา มีคนหนึ่งเดินผ่านเรา ความรู้สึกแบบเดียวกันกับตอนที่เกิดกับปุ๊กก็เกิดขึ้น แต่ไม่รุนแรงเท่า และเราก็ไม่ได้เห็น เราจึงหันมองตาม วัยรุ่นคนนั้นไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย

เราถึงได้เข้าใจ และความเชื่ออย่างปักใจว่าปุ๊กเป็นเนื้อคู่เราก็สลายไปตั้งแต่นั้น! สิ่งที่เกิดเป็นคุณสมบัติพิเศษของบางคน ไม่ใช่สิ่งยืนยันความเป็นเนื้อคู่

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้ง 2 กรณีเราไม่ได้มองเห็นด้วยตา เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องถ่ายภาพชนิดพิเศษถึงจะถ่ายภาพออกมาได้ กับปุ๊กจึงเป็นการมองเห็นด้วยจิต หรือตาทิพย์

ปุ๊กเป็นสาวมังกรคนที่สองที่เราคลั่งไคล้อยากได้เป็นคู่ครอง และปักใจว่าเป็นเนื้อคู่ สาวมังกรคนแรกที่เราปักใจว่าเป็นเนื้อคู่ชื่อ อ้อ หลังจากที่ปักใจในตัวอ้อแล้วเราก็ได้เรียนรู้ดวงนักษัตรจีน คู่ครองเสือ-มังกร คือคู่ครองในอุดมคติ ดีที่สุดคือชายเสือหญิงมังกร

ขนาดเรื่องราวของเราทั้งการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ทั้งปรากฏการณ์ที่พิสดารกว่าคนทั่วไป ก็ยังไม่พอที่จะบอกว่านั่น เป็นเนื้อคู่กัน แล้วจะสำมะหาอะไร กับคนสองคนที่หน้าตาคล้ายกัน มีฐานะทางสังคม มีตระกูลภูมิหลังเหมาะสมกัน มีทัศนะตรงกัน ถูกใจชอบพอกัน แล้วบอกว่านั่นคือเนื้อคู่ฯ

แต่ทั้งสองคนก็เหมาะสมที่จะเป็นคู่ครอง และสร้างสมร่วมกันเพื่อเป็นเนื้อคู่ฯกันในชาติภพถัดไป ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เปลี่ยนไป


Tuesday, November 10, 2015

My Moment I


Moment หนึ่งในชีวิตที่ทำให้เราเกือบตาย แต่เราก็รอดมาได้...

เราที่มีพื้นฐานการฝึกปราณมาบ้างจากการฝึกไอคิโด หลังจากที่ได้อ่าน "The Zen Way to Martial Art" ฉบับแปลซึ่งเราไม่แน่ใจว่าชื่อไทยชื่ออะไร ตามด้วยหนังสือของจ้าว ก๊อก สุ่ย ฉบับแปลชื่อ "ลมปราณ ศาสตร์ และศิลปแห่งการรักษาโรคแบบดั้งเดิม" ก็นำมาซึ่ง Moment ที่เราไม่มีวันลืม

สมัยที่เราเป็นตัวแทนขายประกันชีวิต มีลูกค้าเราคนหนึ่งทำประกันให้ลูกโดยตัวเองเป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน แล้วลูกค้ารายนี้ก็ป่วยหนักจนต้องย้ายโรงบาลมาอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลชื่อดังย่านสะพานใหม่ หลังจากที่ได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่ย้ายเข้าไปอยู่คอนโดเดียวกัน ก็ชวนกันไปเยี่ยมลูกค้าที่ร.พ.

ด้วยจิตใจที่อย่างช่วยลูกค้าให้รอดชีวิต กอปรกับความอยากลองวิชา เราจึงตัดสินใจที่จะถ่ายปราณเพื่อช่วยชีวิต

เมื่อเข้าไปในห้องไอซียู ไปที่เตียงลูกค้า ก็เห็นลูกค้าใส่เครื่องช่วยหายใจ ทรวงอกเคลื่อนไหวขึ้นลง ขึ้นลง พอเราเอื้อมมือไปจับแขนลูกค้า ขาเราก็สั่นพั่บ ๆ อย่างแรง ซึ่งเราก็ตกใจไม่น้อย และใช้เวลานานอยู่กว่าจะเป็นปกติ

เราได้ทำการถ่ายปราณตามวิธีที่ได้รู้มา ทำอยู่ประมาณ 15 นาที พอเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงได้เลิกและออกมาจากห้องไอซียู

เมื่อมาถึงชั้นล่างสุด เราอยากล้างมือ เรารู้สึกเหมือนจับศพมา เราจึงกดน้ำดื่มที่ใช้กรวยกระดาษมากรวยหนึ่งแล้วล้างที่ถังทิ้งกรวยที่ใช้แล้ว แต่เราก็ไม่พอใจ จึงได้เข้าไปในห้องน้ำแล้วล้างมือด้วยสบู่จนพอใจ แล้วเดินออกจากห้องน้ำมา

ขณะที่เราเอาแขนเสื้อที่พับขึ้นลงมาแล้วทำการกรัดกระดุมข้อมือ เราบังเอิญได้จับข้อมือตัวเอง เรารู้ในทันที!

เรารู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ภายใต้ผิวหนังที่เราจับ มันมีหลายอย่าง เหมือนกับว่ามีอุ่นมีเย็น แม้เราจะไม่รู้สึกถึงการเต้นของชีพจรก็ตาม

แต่แขนลูกค้าที่เราจับในห้องไอซียู รู้สึกเหมือนมันไม่มีอะไรเลยภายใต้ผิวหนัง มันอุ่นเสมอกันเหมือนกับว่ามันเป็นนุ่น....

ตกเย็นเจอเพื่อน เขาก็เล่าให้เราฟัง ... ตอนอาบน้ำศพมีหนองไหลออกทางจมูก ... ตอนฉีดฟอร์มาลิน ก็หาเส้นเลือดไม่เจอ...

คืนวันนั้น เราสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกจนต้องลุกขึ้นนั่ง เพราะความเย็นเข้ามาตามแขนขาทั้งสี่ มาถึงขาหนีบและรักแร้ แต่ส่วนลำตัวเราเหงื่อท่วม เสื้อเปียกโชก เราล้มตัวลงนอนต่อ พอหลับเราก็รู้สึกแบบเดิมจนต้องตื่น แล้วเราก็ล้มตัวลงนอนต่อ อาการก็แบบเดิมเป็นครั้งที่ 3 ไม่ได้การ เราเริ่มคิดหาวัตถุที่สามารถปล่อยรังสีคอสมิค (Cosmic Ray) เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ แล้วเราก็เดินไปเปิดทีวีให้มีเสียงดังซ่า ซ่า แบบไม่มีสัญญาณภาพและเสียง แล้วเราก็นอนต่อหลับจนถึงเช้าโดยไม่เกิดอาการแบบนั้นอีก

สรุปได้จากเพื่อนเล่า ลูกค้าเราได้ตายมา 3 วันแล้ว ที่เห็นว่ายังหายใจ ทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลง ขึ้นลง เพราะเครื่องปั๊มออกซิเจน แล้วที่หมอเรียกญาติมาเพื่อปลดเครื่องปั๊มฯ ก็เพราะศพจะเน่าแล้ว ตอนอาบน้ำถึงมีหนองไหลออกจากจมูก...

เราไปถ่ายปราณให้ศพ เกือบตายเพราะความอยากช่วยและอยากลอง ขนาดก่อนที่จะเข้าตึกโรงพยาบาล เราได้ยืนกลางแดด เดินปราณรับปราณจากแสงอาทิตย์จนรู้สึกว่าตัวเราพองใหญ่ขึ้น

เมื่อเราได้กลับไปอ่านวิธีการช่วยชีวิตนั้นอีกครั้ง จึงได้รู้ว่า จะช่วยได้เฉพาะคนที่หยุดหายใจใหม่ ๆ ซึ่งจะต้องตรวจเช็คดูก่อนจากม่านตา ว่าช่วยได้หรือไม่ แต่เราไม่ได้ตรวจเช็ค จึงต้องถ่ายปราณให้ศพ

แต่ Moment นั้นก็ทำให้เราได้รู้ ได้เข้าใจ และมีประสบการณ์

แล้วเราก็คิดได้ว่า เราจะไม่ทำแบบนี้ช่วยใครอีก นอกจากคนที่เรารักเท่านั้น แล้วเราก็โยนหนังสือ "ลมปราณ ศาสตร์ และศิลปแห่งการรักษาโรคแบบดั้งเดิม" ทิ้งไป...

น่าสนใจนะว่า ถ้าเราไม่เดินปราณรับปราณจากแสงอาทิตย์ก่อน เราจะเป็นยังไง?